จุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจเรื่องการเงินอย่างจริงจัง มันคงเริ่มตั้งแต่ตอนที่ดูคลิป คนไทยฉลาดการเงิน เมื่อต้นปีที่แล้วทำให้รู้สึกว่าเรื่องการเงินเป็นเรื่องที่มีแง่มุมในเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเยอะแยะ จึงไปลงคอร์สอบรม TMM28 ที่จัดโดย โค้ชหนุ่ม Money Coach
จุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจเรื่องการเงินอย่างจริงจัง มันคงเริ่มตั้งแต่ตอนที่ดูคลิป คนไทยฉลาดการเงิน เมื่อต้นปีที่แล้วทำให้รู้สึกว่าเรื่องการเงินเป็นเรื่องที่มีแง่มุมในเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเยอะแยะ จึงไปลงคอร์สอบรม TMM28 ที่จัดโดย โค้ชหนุ่ม Money Coach
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน”
ประโยคคุ้นหูที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ซึ่งผมเองก็พยักหน้า หงึก ๆ เห็นด้วยว่าความเสี่ยงนั้นมีจริง แต่ความเสี่ยงสามารถลดได้ด้วยการกระจายความเสี่ยงเหมือนกัน ดั่งประโยคยอดฮิตอีกประโยค
“อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว”
วันนี้เลยอยากจะแชร์วิธีการจัดพอร์ตการลงทุนพื้นฐาน เพื่อลดความเสี่ยงกันซักหน่อย ซึ่งจะสร้างความสมดุลของพอร์ตเราเพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงอย่างมีระดับ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ระดับ ตามนี้
การกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ต้องพบเจอ และก็ใช้เวลาไม่น้อยเลยในการที่จะผ่อนให้หมด ทีนี้หากเราจัดสรรเงินได้ลงตัว และเหลือเงินเก็บส่วนหนึ่ง คำถามหนึ่งมักจะผุดขึ้นมาคือ
“เราจะเอาเงินส่วนนี้ ไปทำอะไรดี ระหว่างล้างหนี้กับลงทุน”
วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ไอเดีย ว่าเมื่อมีเงินเหลือส่วนนึง แล้วเราจะเอาเงินส่วนนี้ไปทำอะไรดี
อย่างแรกสุดเลย ผมคิดว่า หากเรายังไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับกินอยู่ใช้จ่าย 3-6 เดือน ให้นำเงินส่วนนี้สะสมจนครบก่อน จากนั้น ค่อยมาดูกันต่อไปว่าจะจัดการยังไงต่อ
แต่ถ้าเรามีเงินสำรองเก็บไว้มากพอให้อุ่นใจแล้ว ก็มาดูกันต่อว่าจะนำเงินส่วนนี้ มาโปะหนี้บ้านดี หรือไปซื้อกองทุนรวมดี
ดังคำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” นั้น เป็นเรื่องจริงที่ใคร ๆ ต่างก็เห็นด้วย วันนี้เลยขอมาแชร์ไอเดียที่ได้มาจากการอ่าน การเห็น การฟัง รวมถึงที่ปฏิบัติเองด้วย ว่ามีอะไรบ้างที่ถ้าเราทำแล้วจะดีต่อสุขภาพ กาย ใจและการเงินของเรา
ผมเชื่อว่า หลาย ๆ คนที่เข้ามาอ่านในนี้ คงเคยจดบันทึกรายรับ รายจ่ายกันมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการจดลงสมุดโน้ตเล็ก ๆ ทำใส่ลง Excel หรือรุ่นใหม่หน่อยก็ใช้ App บันทึกรายรับ รายจ่ายบนมือถือ
ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่เคยจดบันทึกรายรับ รายจ่าย
แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด…
คือทำได้ไม่นาน นั่นเอง
เป็นคำถามยอดฮิตที่ผมมักจะเจอในกระทู้ หรือโพสใน group การเงินต่าง ๆ ค่อนข้างบ่อยและก็เป็นคำถามกำปั้นทุบดิน ที่ตอบได้ยากมาก เพราะมันไม่มีเนื้อหาอะไรเลย นอกจากรู้เพียงแค่ว่ามีเงิน x บาท ซึ่งจริง ๆ แล้ว การจะมีเงินมาลงทุนอะไรนั้นเราก็ควรจะพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ด้วย และบอกรายละเอียดเพิ่มเติมในคำถามนั้น
วันนี้ขอมาแชร์ไอเดียหน่อย ว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเรา เวลามีเงินเดือนเข้ามาแล้ว จะแบ่งยังไงดี
หลักการการบริหารการเงินง่าย ๆ คือ แบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน คือ เงินออม กับเงินใช้จ่าย
ใครที่อยากจะเริ่มต้นวางแผนการเงินส่วนตัว อยากจะแนะนำให้ download โปรแกรมนึงเก็บไว้ โปรแกรมนี้มีชื่อว่า Financial Calculator ซึ่งมีหลากหลายฟังก์ชั่นในการคำนวณ ใครที่สนใจสามารถ download ได้ตาม link ด้านล่างนี้
หลังจากที่ใช้เวลาไปหลายเดือนกับการดูวิดีโอบน A-Academy (http://www.a-academy.net/videos) ตั้งแต่ Series 1-9 ผมก็เริ่มพอร์ตตัวเองเป็นเดือนแรกตอนเดือน ม.ค. 61
ในช่วงต้นเดือน ก.พ. เห็น Ads ใน Facebook เกี่ยวกับคอร์สนี้พอดี เลยรีบลงทันที เพราะอยากรู้ว่าเราควรจะบริหารพอร์ตนี้ยังไงต่อดี (คือถ้าไม่ได้ลง Couse นี้ คง DCA ไปเรื่อย ๆ ตามแผนก่อน)
เลยขอมารีวิวคอร์สนี้กันซักหน่อย ว่าไปเรียนมาแล้วเป็นยังไงบ้าง โดยผมจะแบ่งรีวิวนี้ออกเป็นส่วน ๆ คือ
ตอนแรกที่คิดอยากจะทำเว็บนี้ขึ้นมา เพียงแค่คิดว่าอยากจะหาที่จดบันทึก แชร์ไอเดีย
เกี่ยวกับแง่มุมทางการเงินเป็นการสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและให้คนอื่น ๆ ได้อ่านกัน
แต่พอจะต้องจด Domain Name (ชื่อเว็บไซต์) ก็นึกชื่อไม่ออก ว่าจะใช้ชื่ออะไรดี
เลยลองพิมพ์ชื่อจริงแล้วใส่ .com เข้าไปดู
อ้าว ! ไม่มีคนใช้เฉยยยย
เลยรีบจดชื่อนี้เก็บไว้เลย และคงเขียนเรื่องอื่น ๆ ไปด้วยเลย 🙂